การฉีด Rejuran เป็นหัตถการที่ปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายค่ะ ตัวยา Rejuran ได้ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ประเทศไทย และองค์การอาหารและยาของประเทศเกาหลี (KFDA) จึงเชื่อมั่นได้ว่ามีความปลอดภัยแน่นอนหากฉีดด้วยตัวยาของแท้ และฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ถ้าหากฉีดด้วย Rejuran ของปลอม ไม่มีคุณภาพ หรือฉีดด้วยผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญ ไม่มีประสบการณ์ ก็มีโอกาสที่จะเกิดอันตรายได้สูงค่ะ ดังนั้น ก่อนการเลือกคลินิกในการฉีด Rejuran จึงควรคำนึงถึงความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือเป็นอันดับแรกค่ะ

การฉีด Rejuran จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่การฉีดครั้งแรก โดยจะเริ่มเห็นผลภายใน 7 วัน สภาพผิวจะเริ่มได้รับการฟื้นฟูให้ดีขึ้น และจะเห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ในระยะเวลา 4-5 สัปดาห์ ผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 1-2 เดือน ซึ่งระยะเวลาที่ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอของการฉีดค่ะ

การฟื้นฟูซ่อมแซมผิวด้วย Rejuran นั้น แพทย์แนะนำว่าควรทำต่อเนื่องกัน 3-4 ครั้ง เพื่อให้ผลลัพธ์ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ โดยควรฉีดห่างกัน 2-3 สัปดาห์ เพื่อให้การรักษาดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เมื่อทำอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์แล้ว ผลลัพธ์จะสามารถอยู่ได้นาน 6-7 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลของแต่ละคนค่ะ

หลายคนอาจรู้สึกว่า Rejuran และฟิลเลอร์นั้น คล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก แต่ต่างกันยังไง เหมือนกันไหม ใช้แทนกันได้ไหม ซึ่งคำตอบคือ Rejuran และฟิลเลอร์ ต่างกันทั้งส่วนประกอบของยา และสรรพคุณของยานั่นเองค่ะ โดยสามารถสรุปได้ดังนี้ค่ะ

ฟิลเลอร์ คือสารเติมเต็มที่สังเคราะห์จาก Hyaluronic Acid (ไฮยาลูรอนิค แอซิด) หรือ HA HA ที่สร้างขึ้นมาเลียนแบบสารธรรมชาติที่อยู่ในชั้นผิวหนังของมนุษย์ ที่มีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้นให้กับผิว เมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะทำให้ชั้นผิวหนังได้รับการเติมเต็ม มีความยืดหยุ่น ชุ่มชื้น ผิวดูอิ่มฟู ฉ่ำวาว ริ้วรอยต่าง ๆ จางลง รวมถึงสามารถฉีดเพื่อปรับให้บริเวณต่าง ๆ ดูเต็มขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยร่องลึก ร่องแก้ม ใต้ตาที่มีริ้วรอย ขมับหรือแก้มตอบ คางสั้น ปากที่ดูบาง เมื่อฉีดฟิลเลอร์ปัญหาเหล่านี้ก็จะหมดไปค่ะ

ส่วนRejuran คือ Polynucleotide สารที่สกัดมาจาก DNA ของปลาแซลมอนธรรมชาติ ไม่ใช่สารที่ผลิตขึ้นเอง มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูซ่อมแซมถึงระดับเซลล์ ทั้งการกระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและการเกิด Growth Factor ทำให้การฉีด Rejuran ไม่เพียงเป็นการแก้ปัญหาสภาพผิวที่เสื่อมโทรม ที่เป็นการรักษาและสร้างเซลล์ผิวใหม่ ให้สุขภาพดีตั้งแต่ภายในสู่ภายนอก เมื่อฉีดไปแล้วผิวหน้าจะกระจ่างใส สุขภาพดีขึ้นจากการได้รับการฟื้นฟูอย่างล้ำลึกนั่นเองค่ะ

การฉีด Rejuran คล้ายกับการทำหัตถการอื่น ๆ ที่ใช้เข็มฉีดยา ทำให้ระหว่างการฉีดอาจมีอาการเจ็บบ้างตอนยาเดินเข้าสู่ผิวหนัง โดยปกติแล้วมักจะมีการมาส์กยาชาก่อนการฉีดหรือประคบเย็น ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บได้ค่ะ เมื่อฉีดแล้วจะมีผลข้างเคียงที่ตามมาคือ บริเวณที่ฉีดจะเป็นรอยแข็งและแดงเล็กน้อย เมื่อผ่านไป 1-2 วัน อาการเหล่านี้จะหายไปโดยไม่เป็นอันตรายค่ะ

• งดยาในกลุ่ม แอสไพริน,NSAIDs และ ยา Dipyridamol 48 ชั่วโมงก่อนการฉีด Rejuran

• พักผ่อนให้เพียงพอ 6-8 ชั่วโมง

• งดดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ 1-2 วันก่อนการฉีด

• ปรึกษาแพทย์ แจ้งโรคประจำตัว และประวัติการแพ้ยา

• งดล้างหน้าหลังการฉีด 6-8 ชั่วโมง

• งดแต่งหน้า 24 ชั่วโมงแรก หลังการฉีด

• หลีกเลี่ยงการจับ นวด กด บริเวณที่ฉีดในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังการฉีด

• ดื่มน้ำในปริมาณมาก ๆ

• งดการทำหัตถการอื่น ๆ เช่น ฉีดโบท็อกซ์ ฉีดฟิลเลอร์ เลเซอร์ หลังการฉีด 2 สัปดาห์

• หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เพื่อให้ผิวไม่เสียความชุ่มชื้น

• งดทานของหมักของดอง หลังการฉีดอย่างน้อย 1 สัปดาห์

แม้ Rejuran จะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติและมีการรับรองว่าไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถฉีดได้ค่ะ เนื่องจากความไม่พร้อมของร่างกายอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ดังนั้นก่อนการตัดสินใจทำหัตถการ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งเพื่อประเมินความพร้อมของร่างกาย

ผู้ที่ไม่ควรฉีด Rejuran มีดังนี้

• หญิงตั้งครรภ์ และหญิงให้นมบุตร

• ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับผิวหนัง ผิวหนังอักเสบ ผิวหนังติดเชื้อ

• ผู้ที่เป็นสิวอักเสบอย่างรุนแรง

• ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือผู้มีอาการป่วยและต้องทานยาเป็นจำนวนมาก

• ผู้ที่ใช้ยาในกลุ่ม NSAIDs

• ผู้ที่แพ้อาหารทะเล