
เส้นเลือดขอด (Varicose Veins) เป็นปัญหาสุขภาพที่หลายคนมองข้าม แต่รู้หรือไม่ว่าเส้นเลือดขอดสามารถส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ ไม่ว่าจะเป็นอาการปวด ขาบวม รู้สึกหนักขา ขาชา หรือเป็นตะคริว นอกจากนี้ ยังส่งผลต่อความมั่นใจ ทำให้คนไข้หลายท่านไม่กล้าใส่ขาสั้น หรือแต่งตัวแฟชั่นในแบบที่ชอบ
หลายคนสงสัยว่าสามารถดูแลรักษาเส้นเลือดขอดเองที่บ้านได้หรือไม่ หรือจำเป็นต้องรักษาโดยแพทย์ เพราะอาจไม่พร้อมเรื่องค่าใช้จ่าย และรู้สึกกลัวการผ่าตัด
บทความนี้จึงจะมาไขคำตอบอย่างละเอียดว่า เส้นเลือดขอดสามารถดูแลรักษาด้วยตัวเองที่บ้านได้หรือไม่ พร้อมแนะนำวิธีดูแลตัวเองที่บ้าน ทั้งการปรับพฤติกรรม การออกกำลังกาย และข้อควรระวังที่ควรรู้ เพื่อให้คุณสามารถดูแลเส้นเลือดขอดได้อย่างเหมาะสม และลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนได้
เส้นเลือดขอดคืออะไร และเกิดจากสาเหตุใด
เส้นเลือดขอด (Varicose Veins) เกิดจากการทำงานล้มเหลวของหลอดเลือดดำ ส่งผลให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก เกิดการคั่งสะสมบริเวณขา และมักปรากฏเป็นเส้นเลือดฝอยเล็กๆ คล้ายใยแมงมุม (Spider Veins) ให้เห็นชัดเจน ทั้งนี้หากไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะแรก อาการอาจลุกลามจนกระทบต่อสุขภาพขาและการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ปวด ตึง ชา เป็นตะคริว ขยับขาไม่สะดวก ขาบวม หรือปวดมากเวลาเดิน อาการเหล่านี้มักพบในผู้ที่อยู่ในระยะ 2–3
เมื่ออาการลุกลามถึงระยะ 4–6 นอกจากความเจ็บปวดแล้ว ยังอาจเกิดบาดแผล ผิวอักเสบ แตกแห้ง ดำคล้ำ มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายได้
กราฟิก 6 ระยะ เส้นเลือดขอด อันตรายยังไง
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เป็นเส้นเลือดขอด
สาเหตุของการเกิดเส้นเลือดขอด มักมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันและลักษณะการทำงาน ที่ส่งผลให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนได้ตามปกติ จนเกิดการคั่งสะสมบริเวณหลอดเลือด และพัฒนาเป็นเส้นเลือดขอดในที่สุด สำหรับปัจจัยกระตุ้นที่อาจทำให้เกิดเส้นเลือดขอดโดยไม่รู้ตัว ได้แก่
- ยืนหรือเดินนานๆ ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก เพิ่มแรงดันที่ขา พบมากในอาชีพครู พยาบาล หรือเซลล์
- น้ำหนักตัวเกิน ทำให้หลอดเลือดทำงานหนักขึ้น จนลิ้นหลอดเลือดเสื่อมประสิทธิภาพ
- การตั้งครรภ์ ฮอร์โมนและปริมาณเลือดที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้ผนังหลอดเลือดหย่อนตัว
- พันธุกรรม หากครอบครัวมีประวัติเส้นเลือดขอด โอกาสเกิดก็สูงขึ้น
- พฤติกรรมบางอย่าง เช่น ใส่รองเท้าส้นสูงหรือนั่งไขว่ห้างบ่อยๆ ส่งผลให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก
สามารถรักษาเส้นเลือดขอด ด้วยตัวเองที่บ้านได้หรือไม่
เส้นเลือดขอดไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยตัวเอง แต่สามารถ ชะลออาการไม่ให้ลุกลามหรือรุนแรงขึ้นได้ ด้วยการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม เช่น ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ขัดขวางการไหลเวียนของเลือด หาเวลายกขาให้สูงเพื่อลดแรงกดต่อหลอดเลือด และสวมถุงน่องทางการแพทย์ เพื่อช่วยให้เลือดไหลกลับเข้าสู่หัวใจและไม่คั่งอยู่บริเวณขา
นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการยืนหรือเดินเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้อาการแย่ลงได้ แม้การดูแลเหล่านี้จะไม่ทำให้เส้นเลือดขอดที่เป็นแล้วหายไป แต่ช่วยบรรเทาอาการและลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิดีโอ หมอมาตอบแล้ว เส้นเลือดขอดหายเองได้ไหม และมีวิธีรักษาด้วยตัวเองหรือไม่
วิธีดูแล และชะลอเส้นเลือดขอด ไม่ให้ลุกลาม
แม้ว่าเส้นเลือดขอดจะไม่สามารถหายได้ด้วยตัวเอง แต่เราสามารถชะลออาการไม่ให้ลุกลาม และลดความเสี่ยงที่จะรุนแรงถึงขั้นต้องรักษาด้วยวิธีที่ซับซ้อนขึ้นได้ โดยดูแลตัวเองตามคำแนะนำดังนี้
- สวมถุงน่องเส้นเลือดขอด ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ลดอาการบวมและปวดขา
- หลีกเลี่ยงการยืนหรือนั่งนานเกินไป เพื่อลดแรงกดดันต่อเส้นเลือด
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เช่น เดิน ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ ลดภาระต่อเส้นเลือดดำ
- เลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ไม่รัดแน่น เพื่อให้เลือดไหลเวียนสะดวก
- งดใส่รองเท้าส้นสูงนานเกินไป ป้องกันการกดทับเส้นเลือดบริเวณขา
- ยกขาสูงกว่าระดับหัวใจวันละ 10–15 นาที ช่วยผ่อนคลาย ลดอาการปวดและบวม
กราฟิก 7 วิธีชะลอเส้นเลือดขอด ไม่ให้ลุกลาม
เมื่อไรควรพบแพทย์ หรือเข้ารับการรักษาที่คลินิก
หากมีอาการปวด บวม รู้สึกหนักขา เส้นเลือดขอดรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน และหากมีสัญญาณอันตราย ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม
สัญญาณที่ควรพบแพทย์
- ผิวหนังบริเวณเส้นเลือดขอดเปลี่ยนสีเป็นคล้ำ หรือมีแผลเรื้อรัง มีอาการแดง ร้อน หรือปวด
- รู้สึกปวด หนักขา หรือปวดหน่วงๆ หลังจากยืนหรือเดินนาน มีตะคริวช่วงกลางคืน หรือรู้สึกคันร้อนบริเวณหน้าแข้ง ขาบวมมากขึ้นอย่างชัดเจน
- เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตราย มีเลือดออกจากเส้นเลือดขอดที่หยุดยาก ขาบวมแดงร้อนอย่างรุนแรง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของลิ่มเลือด
- อาการอื่นๆ ที่รบกวนชีวิตประจำวัน เช่น ใส่ขาสั้นไม่มั่นใจ หรือถูกคนรอบตัวทักเรื่องขาบ่อยๆ
ทำไมจึงควรพบแพทย์
- ป้องกันภาวะแทรกซ้อน การเริ่มรักษาเส้นเลือดขอดตั้งแต่เนิ่นๆ ช่วยชะลออาการไม่ให้ลุกลาม และลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนรุนแรง
- วินิจฉัยแม่นยำ แพทย์จะตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงของเส้นเลือดขอด และอาจใช้เทคโนโลยีอัลตราซาวด์ในการวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
- มีทางเลือกการรักษาที่หลากหลาย ตั้งแต่การปรับพฤติกรรม การใช้ยา การฉีดสลายเส้นเลือดขอด จนถึงการผ่าตัด โดยเลือกวิธีที่เหมาะสมกับความรุนแรงของอาการ
การรักษาเส้นเลือดขอดทางการแพทย์ที่ได้ผล
การรักษามีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับระยะของอาการ (C1–C6) โดยแพทย์จะเลือกวิธีที่เหมาะสม
- รักษาด้วยเลเซอร์ ใช้พลังงานความร้อนจากลำแสงเลเซอร์ปิดและทำให้หลอดเลือดที่ผิดปกติหดตัว หากเป็นเส้นเลือดเล็ก จะยิงเลเซอร์ผ่านผิวหนังโดยตรง ส่วนในกรณีเส้นเลือดใหญ่ จะทำการสอดสายเลเซอร์เข้าในหลอดเลือด เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว
- รักษาด้วยคลื่นวิทยุ (RFA) ใช้หลักการเดียวกับเลเซอร์ แต่จะสอดสายสวน (catheter) ที่มีขั้วปล่อยคลื่นวิทยุผ่านรูเข็มขนาดเล็ก เพื่อทำลายผนังเส้นเลือดขอดด้วยความร้อน เหมาะกับเส้นเลือดขอดขนาดใหญ่ หรือผิวบริเวณนั้นเริ่มมีการเปลี่ยนสีคล้ำ
- รักษาด้วยการผ่าตัด แบ่งออกเป็น 2 วิธีหลัก ได้แก่ การลอกเส้นเลือดขอด (Varicose Vein Stripping) และการเจาะรูเล็ก (Ambulatory Phlebectomy) เหมาะกับเส้นเลือดขนาดใหญ่หรือมีภาวะแทรกซ้อน และต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล
- ฉีดสลายเส้นเลือดขอด (Sclerotherapy) เป็นการฉีดตัวยาเข้าไปในหลอดเลือดดำโดยตรง เพื่อทำลายผนังหลอดเลือดให้เกิดการอักเสบ ตีบและฝ่อตัวลง เหมาะสำหรับผู้ที่มีเส้นเลือดฝอยหรือเส้นเลือดขอดขนาดเล็กถึงปานกลาง (ระยะที่ 1–3) ขั้นตอนนี้เจ็บตัวน้อย ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ทำเสร็จสามารถกลับบ้านไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
เส้นเลือดขอด หากไม่รีบรักษาจะเกิดอะไรขึ้น
เส้นเลือดขอดเป็นภาวะเรื้อรังที่เกิดจากการทำงานผิดปกติของลิ้นหลอดเลือด หากไม่ได้รับการรักษาหรือดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ อาการจะลุกลาม จากที่เป็นเส้นฝอยขนาดเล็ก จะเกิดการกระจายตัว เป็นเส้นเลือดฝอยคล้ายใยแมงมุมมากขึ้น หรืออาจโป่งพองเป็นเส้นเลือดปูดนูนคล้ายหนอนขดเคี้ยวบนขา มีอาการอื่นๆ ตามมา เช่น ขาชา ขาเป็นตะคริว หรือปวดจนยืนไม่ไหว หากปล่อยทิ้งไว้ ความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การรักษาซับซ้อน และอาจต้องใช้วิธีที่ซับซ้อนขึ้นซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น
ภาพ เคสลูกค้าเป็นเส้นเลือดขอดสะสมมาหลายปี จึงเดินทางจากเดนมาร์กเพื่อมารักษากับคุณหมอโบว์
ควรทำอย่างไรเมื่อเริ่มมีอาการเส้นเลือดขอด
หากสังเกตพบความผิดปกติที่ขา เช่น เห็นเส้นเลือดฝอยปรากฏผิดปกติ เส้นเลือดปูดนูนชัดเจน หรือมีอาการปวด ตึง หนักขา ควรรีบปรึกษาแพทย์ชำนาญการ เพื่อรับการวินิจฉัยและเลือกแนวทางรักษาที่เหมาะสมตามระยะของเส้นเลือดขอด ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการรักษาด้วยตนเอง เพราะอาจทำให้อาการลุกลามและยากต่อการควบคุมในอนาคตได้
ฉีดสลายเส้นเลือดขอด นวัตกรรมการรักษาแบบไม่ผ่าตัด
อีกหนึ่งวิธีการรักษาเส้นเลือดขอดในทางการแพทย์ที่ได้รับความนิยม เพราะเป็นวิธีการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น มีขั้นตอนการรักษาที่สะดวกต่อคนไข้ เจ็บตัวน้อย แต่ให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น การฉีดสลายเส้นเลือดขอดเป็นการฉีดตัวยาเข้าไปในหลอดเลือดดำโดยตรง (Sclerotherapy) เพื่อตัดการไหลเวียนเลือดและทำลายผนังหลอดเลือดให้เกิดการอักเสบ จนเส้นเลือดค่อยๆ ตีบและฝ่อตัวลงในที่สุด ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย ตัวยาที่ใช้ต้องผ่านการรับรองจาก อย. ไทย
การรักษาสามารถทำได้ทั้งรูปแบบน้ำและรูปแบบโฟม แต่เพื่อเพิ่มผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่ากว่า จะนิยมนำตัวยามาทำเป็นรูปแบบโฟม ซึ่งจะช่วยให้การฉีดสลายได้ครอบคลุมกว่าชนิดที่เป็นของเหลว เหมาะสำหรับผู้ที่มีเส้นเลือดฝอยหรือเส้นเลือดขอดขนาดเล็กถึงปานกลาง (ระยะที่ 1–3) ใช้เวลาในการรักษาประมาณ 15–30 นาทีต่อครั้ง
กราฟิก รีวิวรักษาเส้นเลือดขอด
รักษาเส้นเลือดขอดแบบไม่ผ่าตัด ที่ De Queens Clinic
เส้นเลือดขอดไม่ใช่เรื่องน่ากลัว หากได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีตั้งแต่เนิ่นๆ หากสังเกตเห็นเส้นเลือดปูดนูน มีลักษณะใยแมงมุม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ ลดโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ และป้องกันการเกิดในระยะรุนแรง
เดอควีนส์ คลินิก ให้บริการฉีดสลายเส้นเลือดขอดด้วยโฟมนำเข้าจากเยอรมัน ดูแลโดยคุณหมอโบว์ แพทย์ชำนาญการ ที่ประเมินและวางแผนการรักษาเป็นรายบุคคล พร้อมติดตามผลหลังการรักษาเพื่อผลลัพธ์ระยะยาว บางเคสอาจจำเป็นต้องสวมถุงน่องทางการแพทย์ เพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ลดอาการปวดหรือเมื่อยขา
หากสงสัยว่ามีเส้นเลือดขอด สามารถส่งภาพให้แพทย์ประเมินเบื้องต้น หรือปรึกษาแพทย์ฟรี ที่ @dequeensclinic หรือ Walk-in ได้ทั้ง 2 สาขา ได้แก่ สาขาเพชรบุรี และสาขาชลบุรี….. เส้นเลือดขอดไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แค่รักษาอย่างถูกวิธี ก็กลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ