
ใช้ชีวิตอย่างไร? ห่างไกลเส้นเลือดขอด
เส้นเลือดขอดเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในผู้ที่ต้องยืนหรือนั่งในท่าเดิมเป็นเวลานาน ซึ่งนอกจากจะส่งผลต่อความสวยงามของขาแล้ว ยังอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน ที่ลุกลามจนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ เช่น อาการปวดหรืออักเสบของหลอดเลือด ที่ส่งผลให้ขาเป็นตะคริว ตึงขา ขาชา และมีแผลอักเสบ แถมยังอาจเกิดการติดเชื้อ ทั้งนี้ การป้องกันเส้นเลือดขอดตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญ บทความนี้จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ช่วยลดความเสี่ยงเป็นเส้นเลือดขอด
เส้นเลือดขอดเกิดจากอะไร?
ปกติร่างกายของมนุษย์เรานั้น ภายในหลอดเลือดจะมีลิ้นขนาดเล็ก (Valve) หรือเรียกว่าวาล์วเปิดปิด เพื่อให้เลือดไหลเวียนผ่านสะดวก รวมไปถึงป้องกันการไหลย้อนกลับของเลือด แต่ในบางครั้งผนังหลอดเลือด อาจขยายตัวออกจนสูญเสียความยืดหยุ่น ส่งผลให้ลิ้นที่คอยเปิดปิดหลอดเลือดอ่อนแอลง จนไม่สามารถทำงานได้ตามปกติเหมือนเดิม นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ เดิมแล้วเลือดที่ต้องไหลเวียนตามร่างกาย กลับเกิดการตกค้าง สะสม ทำให้มีอาการบวมพอง และเป็นเส้นเลือดขอดตามมา
ปัจจัย และพฤติกรรมเสี่ยง ที่อาจทำให้เกิดเส้นเลือดขอด
เมื่อผนังหลอดเลือดเกิดการขยายตัวมากไป จนสูญเสียความยืดหยุ่น ส่งผลให้การทำงานของลิ้นหลอดเลือดที่เป็นวาล์วคอยเปิดปิด การไหลเวียนเลือดอ่อนแอลง จนไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ เป็นผลให้เกิดการตกค้างสะสมของเลือด จนกลายเป็นเส้นเลือดขอดตามมาอย่างที่เราเห็นกัน ทั้งนี้ จะมีปัจจัยบางอย่างที่สามารถกระตุ้นให้เกิดกรณีดังกล่าวได้
- ฮอร์โมนเพศหญิง พบว่าในเพศหญิงมีโอกาสเกิดเส้นเลือดขอดได้ง่ายกว่าเพศชาย โดยนักวิจัยชี้ว่าฮอร์โมนบางอย่างในเพศหญิงอาจมีส่วนทำให้ผนังหลอดเลือดคลายตัวลง และส่งผลให้เกิดการรั่วของลิ้นหลอดเลือดได้
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ เนื่องจากในระหว่างตั้งครรภ์ ปริมาณของเลือดในร่างกาย จะเพิ่มสูงขึ้นจนอาจทำให้เกิดการตึงของหลอดเลือด รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ ที่อาจทำให้ผนังหลอดเลือดคลายตัวลง ส่งผลให้ลิ้นหลอดเลือดทำงานบกพร่องได้
- พันธุกรรม มีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่าย หากมีครอบครัวที่เป็นเส้นเลือดขอดมาก่อน เนื่องจากสามารถสืบทอดทางพันธุกรรมได้นั่นเอง
- อายุมากขึ้น พบว่าส่วนใหญ่ที่เป็นเส้นเลือดขอด มักเป็นผู้ที่ค่อนข้างมีอายุ เนื่องจากหลอดเลือดจะมีลักษณะหลวม และหย่อนตัวลง จึงอาจเป็นสาเหตุทำให้ลิ้นหลอดเลือดอ่อนแอลงตามไปนั่นเอง
- มีน้ำหนักตัวมาก การมีน้ำหนักตัวที่มากเกินไป จะทำให้เกิดแรงดันในหลอดเลือด ส่งผลให้หลอดเลือดมีการทำงานหนักมากขึ้น เพื่อส่งเลือดกลับไปเลี้ยงหัวใจให้ได้ จึงเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดแรงดันต่อลิ้นหลอดเลือดสูงขึ้น จนอาจมีผลทำให้ลิ้นหลอดเลือดทำงานผิดปกติ และเป็นเส้นเลือดขอดตามมา
- การนั่งหรือยืนท่าเดิมนานๆ เนื่องจากเป็นท่าที่มีการเกร็งตัว โดยเฉพาะท่านั่งไขว่ห้าง เมื่อไม่เปลี่ยนหรือขยับร่างกาย จะทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก และอาจทำให้เส้นเลือดบริเวณขาถูกกดทับได้
- ใส่รองเท้าส้นสูงเป็นประจำ การใส่รองเท้าส้นสูง เมื่อเดิน หรือวิ่ง จะมีการทิ้งน้ำหนักตัวลงที่ขาค่อนข้างมาก นอกจากนี้ เวลานั่งทำงาน จะมีการเกร็งที่เท้า ซึ่งส่งผลให้เลือดอาจไหลเวียนได้ไม่ดี
- สวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป เช่น ใส่ถุงน่อง หรือกางเกงที่รัดรอบเอว รอบขาแน่นๆ โดยการบีบรัดบางอย่างบนร่างกายมากเกินไป จะส่งผลให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น
- สูบบุหรี่บ่อยๆ ทั้งนี้ การสูบบุหรี่ที่มากเกินไป อาจเป็นอีกสาเหตุที่ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดลดลงได้
กราฟิก : 9 ปัยจัย ที่ทำให้เป็นเส้นเลือดขอด
6 พฤติกรรม ป้องกันการเกิดเส้นเลือดขอด
แน่นอนค่ะว่าเส้นเลือดขอด เป็นภัยร้ายที่ใครๆ ก็อยากเซย์กู๊ดบาย ไม่อยากจะเสวนาด้วย แต่ทว่าเจ้าภัยร้ายที่เราพูดถึงก็ชอบมาโบกมือทักทายเราโดยที่ไม่ได้ตั้งตัวเสมอ ด้วยเหตุนี้ การลดความเสี่ยงที่ทำให้เกิดเส้นเลือดขอด จึงเป็นวิธีการที่ดีที่จะช่วย ให้เราสามารถป้องกันการเป็นเส้นเลือดขอดได้ โดยมีดังนี้
ภาพประกอบ : ออกกำลังกาย ยืดเส้นยืดสาย
1. เคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆ
จากการวิจัยพบว่า การยืนนิ่ง หรือนั่งท่าเดิมเป็นเวลานานๆ เกินไป จะทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ดี และเพิ่มความดันในหลอดเลือดขา ดังนั้น พฤติกรรมที่ควรทำได้แก่
- เปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ ด้วยการลุกขึ้น เดินยืดเส้นยืดสาย ทุกๆ 30 - 60 นาที
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ด้วยการเดิน วิ่ง ว่ายน้ำ หรือโยคะ ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ล้วนช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้ดี
- ยกขาสูงเป็นประจำ โดยให้ยกขาสูงกว่าระดับหัวใจ วันละ 10 - 15 นาที เพื่อช่วยลดความดันในหลอดเลือด
ภาพประกอบ : สวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสม
2. สวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสม
- ควรหลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป โดยเฉพาะบริเวณต้นขาและเอว เพราะอาจขัดขวางการไหลเวียนของเลือด
- กรณีที่พบความเสี่ยงหรือเป็นเส้นเลือดขอดเริ่มต้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อใช้ถุงน่องเส้นเลือดขอด ที่เป็นถุงน่องทางการแพทย์เท่านั้น เพื่อช่วยพยุงหลอดเลือด (Compression Stockings) และให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
ภาพประกอบ : ควบคุมน้ำหนักตัว
3. ควบคุมน้ำหนักตัว
การมีน้ำหนักตัวที่เกินมาตรฐาน จะทำให้ขาต้องรับน้ำหนักมากขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มแรงดันในหลอดเลือดขา จนส่งผลให้ผนังหลอดเลือดเสียความยืดหยุ่น ซึ่งเป็นผลให้ลิ้นหลอดเลือดอ่อนแอลงได้ ด้วยเหตุนี้ การควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานจึงช่วยลดความเสี่ยงได้
ภาพประกอบ : อาหารเพื่อสุขภาพที่ช่วยบำรุงหลอดเลือด
4. ทานอาหารสุขภาพ บำรุงหลอดเลือด
- เลือกรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้แก่หลอดเลือด เช่น
- ผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง และเบอร์รี่ ซึ่งช่วยสร้างคอลลาเจน ในผนังหลอดเลือด
- อาหารประเภทที่มีใยอาหารสูง เช่น ธัญพืช และผักใบเขียว เพื่อลดโอกาสเกิดอาการท้องผูก ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของเส้นเลือดขอด
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ วันละ 8 -10 แก้วต่อวัน เนื่องจากการดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น หัวใจทำงานปกติ เพราะระบบหลอดเลือดมีการทำงานที่ดีนั่นเอง
ภาพประกอบ : หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ที่ทำให้เกิดเส้นเลือดขอด
5. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ที่ทำให้เกิดเส้นเลือดขอด
- ไม่ใส่รองเท้าส้นสูงเป็นเวลานาน เพราะทำให้เลือดไหลเวียนได้ยาก
- งดสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะมีผลต่อการทำงานของระบบไหลเวียนเลือด
ภาพประกอบ : ปวดขา ขาหนัก ปวดเมื่อย
6. สังเกตอาการผิดปกติ
สังเกตความผิดปกติของร่างกาย เช่น หากมีอาการขาหนัก ปวดเมื่อย หรือเห็นหลอดเลือดปูดโปน ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัย และรักษาแต่เนิ่นๆ เพราะเส้นเลือดขอดหากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน และลุกลามไปถึงขั้นระดับรุนแรงได้ เช่น
- มีอาการขาชา เป็นตะคริว ขยับร่างกายไม่ได้ตามต้องการ ปวดตึงขามากๆ เวลาเดิน ขับรถ
- มีภาวะแทรกซ้อน เกิดการอักเสบของหลอดเลือด เกิดลิ่มเลือด ในกรณีที่ลิ่มเลือดเกิดในหลอดเลือดที่อยู่ใกล้กับผิวหนังมากก็อาจทำให้เกิดการอักเสบ ของผนังหลอดเลือดดำ หรืออาจนำไปสู่การเกิดภาวะหลอดเลือดที่ขาอุดตันได้ด้วย
- มีภาวะหลอดเลือดดำบกพร่องเรื้อรัง เมื่อประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือดลดลงเป็นระยะเวลานาน จะส่งผลให้เกิดภาวะอื่นๆ ตามมา เช่น โรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังที่ขาส่วนล่าง หรือเกิดแผลอักเสบที่ขาได้
- เป็นเส้นเลือดขอดระยะรุนแรง ที่รักษาได้ยาก โดยจะมีอาการบวม สีดำคล้ำ ผิวหนังแตก หากไม่รีบทำการรักษา อาจอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
รักษาระยะแรก ก่อนลามไปสู่ระดับอันตราย
การรักษาเส้นเลือดขอด นับว่ามีหลากหลายวิธีขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรง โดยแพทย์จะแนะนำให้ทำการรักษาตั้งแต่ในระยะแรก เนื่องจากยังเป็นเพียงเส้นเลือดฝอยขนาดเล็ก หรือที่เรียกว่าเส้นใยแมงมุม (Spider Veins) เนื่องจาก สามารถรักษาหายได้ง่าย และป้องกันการลุกลามถึงระดับขั้นเจ็บปวด ที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิต ซึ่งวิธีการรักษาคือสามารถฉีดยาสลายเส้นเลือดขอด ด้วยโฟมนำเข้าจากเยอรมันได้เลย โดยที่ไม่ต้องทำการผ่าตัด และไม่เสียเวลาพักฟื้น เป็นวิธีการที่รักษาได้ง่าย สะดวก เจ็บตัวน้อย แต่เห็นผลลัพธ์หลังทำทันที ประมาณ 70 - 80% เมื่อระยะเวลาผ่านไปจะยิ่งจางหาย จนไม่ปรากฏให้เห็นอีกครั้ง
ทั้งนี้ อาจขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคล กล่าวคือ หากยังมีพฤติกรรมเสี่ยงที่ส่งผลให้เป็นเส้นเลือดขอดอยู่ ก็อาจทำให้กลับมาเป็นซ้ำได้ กรณีที่ไม่อยากเป็นซ้ำ แนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามที่กล่าวมาข้างต้น อีกทั้ง หลังทำการรักษาควรปฏิบัติตัวตามแพทย์สั่ง โดยแพทย์จะมีการติดตามผลหลังการรักษา และอย่าลืมเลี่ยงพฤติกรรมบางอย่าง ที่ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวกด้วยค่ะ
ภาพ : Before After ก่อน และหลังรักษาเส้นเลือดขอด
บอกลา เส้นเลือดขอด คืนความมั่นใจให้แก่ผิว
การป้องกันเส้นเลือดขอดเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน หากเราใส่ใจดูแลร่างกายอย่างเหมาะสม ไม่เพียงแต่จะช่วยลดความเสี่ยงของเส้นเลือดขอด แต่ยังช่วยให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นอีกด้วย เริ่มต้นดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ เพื่อขาที่สวยและสุขภาพดีไปนานๆ! เดอควีนส์ คลินิก ยินดีให้บริการคืนความมั่นใจ สำหรับใครที่พบปัญหาเส้นเลือดขอด และต้องการรักษา รับคำปรึกษา หรือส่งรูปภาพให้แพทย์ประเมินเบื้องต้นได้แล้วที่ Line: @dequeensclinic หมอตอบเอง ดูแลโดยหมอโบว์ แพทย์มากประสบการณ์ในการรักษาเส้นเลือดขอด หากสนใจเข้า Walk in รักษาเส้นเลือดขอดคลินิกใกล้บ้านได้แล้ว ทั้ง 2 สาขา ได้แก่ สาขาชลบุรี และเพชรบุรี ที่เดอควีนส์ ใส่ใจทุกปัญหาของคนไข้ และยินดีจัดการให้ค่ะ