หน้าพัง ระวังของปลอม!! How to เช็กฟิลเลอร์แท้

ฟิลเลอร์ (Filler) หัตถการความงามที่ได้รับความนิยมในทุกเพศทุกวัย เพราะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยแก้ไขปัญหาผิวและใบหน้า เพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตได้ดี ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้มีของปลอมเกิดขึ้นตามตลาดมากมาย ที่หลายคนพลาดจนทำให้หน้าพัง!! เหตุหลงผิดเพราะคิดว่าราคาถูกแต่จะยังคงได้คุณภาพดี โดยที่ไม่ได้เช็กให้ดีว่าเป็นของแท้หรือไม่!? เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวในตามข่าว เราจึงได้รวบรวมวิธีเช็กฟิลเลอร์แท้ 7 ยี่ห้อดัง ประจำปี 2024 นี้ให้ทุกคน กันไว้ดีกว่าแก้ เซฟตัวเองให้ปลอดภัย ห่างไกลจากของไร้คุณภาพด้วยเช่นกันค่ะ

ก่อนจะเช็กของปลอมก็ต้องทำความรู้จักของแท้ก่อนว่าเป็นสารชนิดไหน ทั้งนี้ ฟิลเลอร์ (Filler) แท้ที่มีความปลอดภัยสูง จะเป็นสารเติมเต็มชนิดไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic acid) หรือที่เราเรียกย่อๆ กันว่า HA ซึ่งเป็นสารที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายของมนุษย์เราตามธรรมชาติ โดยสารดังกล่าวจะถูกนำมาใช้เพื่อทดแทน สารไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic) ที่ร่างกายได้สูญเสียไป จากการผลิตที่น้อยลงเรื่อยๆ เมื่อเรามีอายุเพิ่มมากขึ้น โดยในผิวหนังมนุษย์ จะมีเส้นใยคอลลาเจนที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำให้สุขภาพผิวแข็งแรง ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น เต่งตึง ซึ่งจะสามารถสังเกตเห็นความอ่อนเยาว์ ผิวเนียนนุ่มได้อย่างชัดเจน

ในขณะเดียวกัน เมื่อร่างกายผลิตเส้นใยคอลลาเจนได้ลดลง จะส่งผลให้ผิวบางลง และก่อให้เกิดริ้วรอยต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ดังนั้น หากมีการฉีดฟิลเลอร์ สารเติมเต็ม Hyaluronic acid เข้าไปในบริเวณที่เป็นริ้วรอย หรือร่องต่างๆ เช่น ใต้ตา ร่องลึกบนขมับ ร่องแก้ม และบริเวณใบหน้าที่มีริ้วรอย อย่างหน้าผาก ซึ่งปัญหาผิวดังกล่าว จะดีขึ้น ริ้วรอยดูตื้น ผิวเรียบเนียน เต่งตึง และดูอิ่มฟูอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารที่มีความคงตัวสูง จึงสามารถช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในชั้นผิวได้ดี ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำนั่นเอง

1. ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary Filler) เป็นฟิลเลอร์ชนิดที่สามารถสลายเองตามธรรมชาติได้ มีความปลอดภัยสูง เมื่อเทียบกับชนิดอื่น เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ชนิดสารเต็มเต็ม Hyaluronic acid (HA) ซึ่งเป็นสารเลียนแบบที่มีอยู่ในร่างกายของมนุษย์ตามธรรมชาติ นับว่าเป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เพราะเป็นฟิลเลอร์ชนิดเดียวที่ได้รับรองความปลอดภัยจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.ไทย โดยฟิลเลอร์ประเภทนี้จะสามารถอยู่ได้ประมาณ 6 - 24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ แต่ละรุ่นของฟิลเลอร์ และเมื่อฟิลเลอร์ได้มีการสลายตัวไปแล้ว เราสามารถกลับมาเติมใหม่ได้เรื่อยๆ โดยที่ไม่ต้องกังวลการตกค้างบนร่างกาย
   
   
2. ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร (Semi Permanent Filler) เป็นฟิลเลอร์ที่ไม่สามารถสลายเองได้หมด 100% เพราะเป็นแบบชั่วคราว แต่สามารถอยู่ได้ประมาณ 2- 5 ปี สำหรับตัวอย่างสารที่ใช้จะเป็นสารแคลเซียม ไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxyapatite) สาร PLLA (Poly-L-lactic acid) และสาร Polyalkylimide เป็นต้น สารเติมเต็มในกลุ่มประเภทนี้ อาจส่งผลข้างเคียงมากมายได้ เช่น หากมีการฉีดไปนานๆ เมื่อฟิลเเลอร์ไม่สามารถย่อยสลายได้หมด 100% จึงมีโอกาสที่ทำให้เกิดการสะสมจนมีปัญหาฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน และเกิดการอักเสบตามมาได้ ส่งผลให้รักษา หรือแก้ไขได้ยาก โดยฟิลเลอร์ชนิดนี้จะมีการใช้ในต่างประเทศเท่านั้น ยังไม่มีการผ่านอย.ประเทศไทย
   
   
3. ฟิลเลอร์แบบถาวร (Permanent Filler) เป็นฟิลเลอร์ประเภทที่ไม่สามารถย่อยสลายเองได้ หรือเรียกง่ายๆ ว่า เป็นฟิลเลอร์ที่คงอยู่ถาวร โดยสารเติมเต็มในกลุ่มนี้ที่พบบ่อย มักเป็น ซิลิโคนเหลว พาราฟิน หรือ สาร PMMA (Polymethyl-methacrylate microspheres) เมื่อได้มีการฉีดเข้าสู่ร่างกายแล้ว จะไม่สามารถดูดซึมได้ ทำให้ตกค้างอยู่ในชั้นผิว ส่งผลข้างเคียงได้ในระยะยาว เช่น ฟิลเลอร์ไหลย้อยผิดรูป หรือกลายเป็นพังผืด ซึ่งหากทำการรักษา จะต้องทำการขูด หรือผ่าตัดออกเท่านั้น ไม่สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ นอกจากนี้ ยังเป็นประเภทที่ไม่ได้รับรองจากอย. อีกด้วย

เช็กให้ชัวร์ก่อนฉีด ไม่งั้นหน้าพัง ผิวอักเสบ เกิดพังผืด

ฟิลเลอร์ปลอม หลายคนที่ประสบปัญหานี้ส่วนใหญ่มักได้ยินโฆษณาช่วนเชื่อที่เคลมว่าราคาถูก คุณภาพดี หรือสามารถอยู่ได้คงทน ถาวร โดยหลายคนอาจยังไม่รู้ว่าสารที่นำมาฉีดจะเป็นฟิลเลอร์ประเภท Permanent Filler ไม่ใช่ฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic acid ที่ผ่านอย.ไทย นั่นคือ ซิลิโคน หรือพาราฟิน ซึ่งเป็นอันตราย ส่งผลเสียต่อผิวบริเวณนั้นในระยะยาว เช่น หากฉีดในระยะประมาณ 3-5 ปี ซิลิโคนจะเหลว และเริ่มไหลย้อยผิดรูป หรือกองลงมาเป็นก้อน จนอาจมีอาการบวม ห้อยย้อย เป็นก้อนแข็ง ทำให้ผิวหนังบริเวณที่ฉีดผิดรูป เลวร้ายคือเนื้อตาย เกิดพังผืด ผิวอักเสบติดเชื้อ บางรายพบตุ่มแดงตามผิว มีใบหน้าเบี้ยวผิดรูป และรู้สึกปวดแสบค่อนข้างมาก และนำไปสู่อีกหลายๆ สาเหตุตามมา จึงมีโอกาสที่ต่อให้ทำการรักษาแล้ว ใบหน้าของเราอาจไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก ในกรณีที่รักษาอาจต้องให้แพทย์ขูด หรือผ่าตัดออกทั้งหมดเท่านั้น เพราะฟิลเลอร์ปลอมไม่สามารถฉีดสลายได้ ซึ่งค่าใช้จ่ายจะแพงกว่าการฉีดฟิลเลอร์ของแท้แบบหลายเท่าตัวค่ะ

How to เช็กฟิลเลอร์แท้ที่ปลอดภัยดูยังไง?

 แน่นอนค่ะว่าฟิลเลอร์แท้ที่ปลอดภัย จะเป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับรองจากอย.ประเทศไทย ซึ่งเป็นสารเติมเต็มชนิด Hyaluronic acid (HA) ทั้งนี้ สามารถเช็กฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อที่ผ่านอย.ไทย ปี 2024 ตามเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือได้เลย และถึงแม้ว่าจะมียี่ห้อตามที่อย.ไทย แจ้งมา ก็ไม่ได้การันตีว่าจะเป็นกล่องแท้ ด้วยเหตุนี้ จึงได้รวบรวมวิธีเช็กฟิลเลอร์แท้ของแต่ละยี่ห้อให้ทุกคน ที่นี่เลย

กราฟิก : เช็กฟิลเลอร์ที่ผ่านอย.ไทย ปี 2024 มีอะไรบ้าง?

วิธีเช็กฟิลเลอร์แท้ 7 ยี่ห้อดัง อัปเดตล่าสุด 2024

วิธีเช็กฟิลเลอร์แท้ Restylane

1. มีสติกเกอร์โมโนแกรม คำว่า “VOID” ติดอยู่

2. มีเลขทะเบียนอย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง

3. มีเลข Lot. ที่ตรงกัน 2 จุด คือ บนกล่อง และหลอดฟิลเลอร์

4. สแกน QR Code ข้างกล่อง โดยใช้แอปพลิเคชั่น Eztracker เพื่อเช็กของแท้จากผู้แทนจำหน่าย ทั้งนี้ หากเป็นของแท้ จะขึ้นว่า “ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนำเข้าโดยผู้จัดจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต” กรณีที่เป็นฟิลเลอร์กล่องเก่า ที่มีคนสแกนแล้ว ระบบจะขึ้นแจ้งเตือนหน้าจอทันที

5. สามารถโทรเช็กเลข Lot. และคลินิกได้ที่บริษัท Galderma โทร. 02-0231800 ต่อ 402

วิธีเช็กฟิลเลอร์แท้ Definisse

1. มีเลขทะเบียนอย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทย

2. มีรอยประข้างกล่องที่ปิดสนิท

3. Label Sticker จะสามารถลอกออกได้ เพื่อนำไปติดใน OPD Card

4. มีเลข Lot. ตรงกัน 3 จุดคือ หลังกล่อง ข้างกล่อง และที่หลอด

5. โทรสอบถามเลข Lot. และคลินิกได้รับอนุญาต ที่บริษัท เอ.เมนารินี (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02 696 8500 กด 3

วิธีเช็กฟิลเลอร์แท้ Juvederm

1. มีฉลากกำกับภาษาไทย และเลขอย.ไทย รับรองอยู่บนกล่อง

2. มีเลข Lot. ที่ตรงกันอยู่ 4 จุด ได้แก่ บนกล่อง บนถาด บนสติกเกอร์ และบนหลอดฟิลเลอร์

3. สามารถโทรสอบถามเลข Lot. ได้ที่บริษัท Allergan Thailiand หรือ โทร. 02-640-4999 ต่อ 1

วิธีเช็กฟิลเลอร์แท้ Belotero

1. มีเลข Lot. วันเดือนหมดอายุ ที่ตรงกันอยู่ 3 จุด ได้แก่ บนกล่อง บนสติกเกอร์ และบนหลอดฟิลเลอร์

2. แถบสีบนหลอดฟิลเลอร์เป็นสีเดียวกับที่ติดอยู่บนกล่อง

3. ภายในกล่องมีเอกสารกำกับเป็นภาษาไทย และมีเลขทะเบียนอย.

4. สามารถโทรเช็กเลข Lot. และคลินิกที่นำฟิลเลอร์มาใช้ได้ที่ บริษัท เมิร์ซ เฮลธ์ แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด (Merz Aesthetic) โทร 092-254-2662

วิธีเช็กฟิลเลอร์แท้ Neuramis

1. มีเลข lot. วันเดือนปีที่ผลิต และวันหมดอายุ ตรงกัน 2 จุด ได้แก่ บนกล่อง และบนหลอดฟิลเลอร์

2. สแกน QR Code เพื่อตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นรูป ชื่อรุ่น วันเดือนปีที่ผลิต วันหมดอายุ บริษัทผู้ผลิต ซึ่งจะตรงกับข้อมูลที่อยู่บนกล่อง

3. มีฉลากกำกับภาษาไทย พร้อมเลขทะเบียนอย.ไทยอยู่บนกล่อง

4. หลอดฟิลเลอร์จะถูกปิดไว้ด้วยจุกสีเทา

วิธีเช็กฟิลเลอร์แท้ Flore

1. มีฉลากกำกับภาษาไทย พร้อมเลขทะเบียนอย.ไทย

2. ภายในกล่องมีเอกสารเกี่ยวกับฟิลเลอร์เป็นภาษาไทย และภาษาอังกฤษ

3. มีสติกเกอร์ปิดกล่องไว้และไม่มีรอยแกะมาก่อน

4. สามารถสแกน QR Code เพื่อเช็กเลข Lot. ได้

5. เลข Lot. ตรงกันทั้งหมด 3 จุด ได้แก่ บนกล่อง สติกเกอร์ และบนหลอดฟิลเลอร์

6. สามารถโทรสอบถามเลข Lot ได้ที่บริษัทบอน-ซอง จำกัด โทร 081-291-5555

วิธีเช็กฟิลเลอร์แท้ e.p.t.q

1. มีฉลากกำกับภาษาไทย และเลขทะเบียนอย.ไทย รับรองอยู่บนกล่อง

2. สามารถสแกน QR Code ที่อยู่ข้างกล่องฟิลเลอร์ โดยจะขึ้นว่า “ผลิตภัณฑ์นี้เป็นของแท้” พร้อมรายละเอียดรุ่น เลขจดทะเบียน วันเดือนปีที่ผลิต วันหมดอายุ ทั้งนี้หากเป็นฟิลเลอร์ที่ได้มีการเปิดใช้มาก่อนหน้า และมีคนสแกนซ้ำ ระบบจะขึ้นเป็นรูปกากบาททันที

3. มีโลโก้ Aestema อยู่ที่ข้างกล่องฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์อย่างปลอดภัย มีปัจจัยไหนบ้าง?

ฟิลเลอร์เป็นหัตถการความงามที่ต้องฉีดกับแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งไม่ควรฉีดที่ไหน หรือฉีดกับใครก็ได้ เนื่องจากเป็นการนำสารเข้าสู่ร่างกาย จึงจำเป็นต้องได้รับการระมัดระวังเป็นพิเศษในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น การฉีดของแพทย์ โดยแพทย์มีความรู้ในด้านนี้พอหรือไม่? เพราะหากไม่มีความรู้ดังกล่าว อาจทำให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน หรือฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด อาจส่งผลอันตรายถึงชีวิตได้ ด้วยเหตุนี้ จึงควรเช็กเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักที่ติดอยู่บนหน้าร้าน พร้อมชื่อ และสาขา นอกจากนี้ ก่อนฉีดแพทย์จะแกะกล่องใหม่เสมอ สามารถสแกน QR Code เช็กของแท้จากผู้แทนจำหน่ายได้เลยค่ะ

เดอควีนส์ คลินิก ใส่ใจทุกปัญหาและสุขภาพผิว สามารถสอบถามรายละเอียดฟิลเลอร์เพิ่มเติมทางไลน์ ปรึกษาฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย (หมอตอบเอง) เพื่อให้คุณได้สวยอย่างปลอดภัย มั่นใจ พร้อมมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สนใจสามารถติดต่อเข้ามารับบริการได้ที่ De Queens Clinic ทั้ง 2 สาขา หรือติดต่อได้ที่ Line: @dequeensclinic ค่ะ ...เดอควีนส์ ยินดีให้บริการด้วยใจเสมอ