ถุงน่องทั่วไป กับ ถุงน่องทางการแพทย์ แตกต่างกันอย่างไร?

ถุงน่องทั่วไป กับ ถุงน่องทางการแพทย์ แตกต่างกันอย่างไร?

เส้นเลือดขอด เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย ทำให้ "ถุงน่องเส้นเลือดขอด" หรือ "ถุงน่องทางการแพทย์" เข้ามามีบทบาทอย่างมากในการช่วยดูแลและบรรเทาอาการ ทำให้เป็นที่นิยมมากขึ้น ส่งผลให้มีวางขายตามท้องตลาดทั่วไปมากมาย หาซื้อได้ง่าย มีหลากหลายยี่ห้อ คุณภาพ และราคา ตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพัน

ถึงแม้เราจะทราบว่าถุงน่องทางการแพทย์เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ชนิดหนึ่ง แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าคุณสมบัติพิเศษของถุงน่องชนิดนี้คืออะไร และแตกต่างจากถุงน่องแฟชั่นทั่วไปอย่างไร เนื่องจากถุงน่องทางการแพทย์มักมีราคาสูงกว่า ขณะที่ถุงน่องแฟชั่นมีขายทั่วไปในราคาถูกกว่า จึงอาจเกิดความเข้าใจผิดว่าถุงน่องแฟชั่นที่รัดรูปก็สามารถช่วยดูแลหรือป้องกันเส้นเลือดขอดได้เช่นกัน

บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับถุงน่องทั้งสองประเภท ว่ามีคุณสมบัติ ข้อดี และข้อแตกต่างกันอย่างไร รวมถึงแนะนำวิธีเลือกถุงน่องทางการแพทย์ให้เหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ในการดูแลเส้นเลือดขอดอย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงขึ้นค่ะ

ถุงน่องทางการแพทย์ คืออะไร?

ภาพถุงน่องทางการแพทย์

ถุงน่องทางการแพทย์ หรือ ถุงน่องประคองหลอดเลือดดำ (Medical Compression Stockings) หรือที่เรียกกันติดปากว่า ถุงน่องเส้นเลือดขอด (Varicose Vein Stockings) เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ผลิตจากผ้ายืดที่มีคุณสมบัติพิเศษ มีความหนาและทนทานกว่าถุงน่องแฟชั่นทั่วไป จุดเด่นสำคัญคือถูกออกแบบให้มี แรงบีบรัดแบบไล่ระดับ (Graduated Compression) โดยจะกำหนดแรงบีบรัด (หน่วยเป็น มิลลิเมตรปรอท - mmHg) ที่เหมาะสมต่อหลอดเลือดดำบริเวณต่างๆ ของขา โดยจะรัดแน่นที่สุดบริเวณข้อเท้า และค่อยๆ ลดระดับความแน่นลงเมื่อสูงขึ้นมาถึงน่องและต้นขา

กลไกนี้ช่วยสนับสนุนการทำงานของกล้ามเนื้อน่อง (Calf Muscle Pump) ในการบีบตัวส่งเลือดดำจากขากลับสู่หัวใจได้ดีขึ้น ช่วยป้องกันเลือดไหลย้อนกลับ ลดภาวะเลือดคั่งค้างและความดันในหลอดเลือดดำสูงที่ขา ซึ่งเป็นสาเหตุของเส้นเลือดขอด นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำชั้นลึก (Deep Vein Thrombosis - DVT) และป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำของเส้นเลือดขอดหลังการรักษา

ทำไมต้องใส่ถุงน่องทางการแพทย์?

ถุงน่องทางการแพทย์มีประโยชน์สำหรับบุคคลหลายกลุ่ม

  • กลุ่มเสี่ยง ผู้ที่มีอาชีพต้องยืนหรือนั่งนานๆ (เช่น พยาบาล, แพทย์, ครู, พนักงานขาย, พนักงานต้อนรับ, พนักงานออฟฟิศ), หญิงตั้งครรภ์, ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน, ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นเส้นเลือดขอด การสวมถุงน่องฯ จะช่วยส่งเสริมการไหลเวียนเลือด ลดอาการขาบวม เมื่อยล้า และลดโอกาสในการเกิดหรือเป็นเส้นเลือดขอดรุนแรงขึ้น
  • ผู้ที่เป็นเส้นเลือดขอดแล้ว สามารถสวมเพื่อบรรเทาอาการปวด บวม ตึง หรือเมื่อยล้าที่ขาได้ ทั้งในระยะเริ่มต้นและระยะรุนแรง
  • ผู้ที่ผ่านการรักษาเส้นเลือดขอด แพทย์มักแนะนำให้สวมหลังการรักษา (เช่น ฉีดสลาย, เลเซอร์, ผ่าตัด) อย่างน้อย 7 วันหรือนานกว่านั้น เพื่อช่วยให้หลอดเลือดดำยุบตัวได้ดี ป้องกันการเกิดลิ่มเลือด และป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ

ถุงน่องทางการแพทย์ดียังไง? (สรุปประโยชน์)

  1. ช่วยป้องกันหรือชะลอการเกิดเส้นเลือดขอด หรือป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงขึ้น
  2. ช่วยป้องกันการเกิดลิ่มเลือดของหลอดเลือดดำชั้นลึก (DVT)
  3. เพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนเลือดดำที่ขา กลับสู่หัวใจได้ดีขึ้น
  4. ช่วยลดอาการบวมที่ขาจากการคั่งของสารน้ำ (Edema)
  5. ลดภาวะความดันในหลอดเลือดดำสูงที่ขา
  6. ช่วยป้องกันการเกิดเส้นเลือดขอดซ้ำหลังการรักษา (ฉีดสลาย, เลเซอร์, ผ่าตัด)
  7. บรรเทาอาการที่เกิดจากภาวะหลอดเลือดดำทำงานบกพร่องเรื้อรัง (Chronic Venous Insufficiency - CVI)
  8. บรรเทาอาการปวด ตึง เมื่อยล้า หรืออักเสบจากเส้นเลือดขอด

ใครที่เหมาะใส่ถุงน่องทางการแพทย์?

  • ผู้ที่เป็นโรคเส้นเลือดขอด หรือมีอาการเส้นเลือดโป่งพอง
  • ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดขอด และต้องการป้องกัน (เช่น อาชีพที่ต้องยืน/นั่งนาน, หญิงตั้งครรภ์, ผู้มีน้ำหนักเกิน)
  • ผู้ที่ต้องการป้องกันการเกิดเส้นเลือดขอดระหว่างเดินทางนานๆ (นั่งเครื่องบิน, รถยนต์)
  • ผู้ป่วยที่มีภาวะหลอดเลือดดำทำงานบกพร่องเรื้อรัง (CVI) ตามระยะต่างๆ
     - ระยะที่ 1 (C1): เส้นเลือดฝอยคล้ายใยแมงมุม (Spider veins)
     - ระยะที่ 2 (C2): เส้นเลือดขอดโป่งพอง (Varicose veins)
     - ระยะที่ 3 (C3): อาการขาบวม (Edema)
     - ระยะที่ 4 (C4): ผิวหนังเปลี่ยนแปลง (เช่น สีคล้ำ, แข็ง, อักเสบ)
     - ระยะที่ 5 (C5): มีประวัติแผลหลอดเลือดดำ แต่แผลหายแล้ว (Healed ulcer)
     - ระยะที่ 6 (C6): มีแผลหลอดเลือดดำที่ยังเปิดอยู่ (Active ulcer)

วิธีเลือกซื้อถุงน่องเส้นเลือดขอด

ถุงน่องเส้นเลือดขอดมีขายหลายแห่ง แต่การเลือกให้ถูกต้องและเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการดูแลและไม่ทำให้อาการแย่ลง ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้

  1. เลือกตามระดับแรงบีบรัด (Compression Class) ให้เหมาะสมกับระยะของเส้นเลือดขอด แรงบีบรัดแบบไล่ระดับ (Graduated Compression) เป็นหัวใจสำคัญ โดยจะรัดแน่นที่สุดที่ข้อเท้าและค่อยๆ ลดลงเมื่อสูงขึ้น ช่วยพยุงหลอดเลือดและสนับสนุนการทำงานของกล้ามเนื้อน่องในการปั๊มเลือดกลับสู่หัวใจ ระดับแรงบีบรัดที่นิยมใช้ มีดังนี้
     - ระดับที่ 1 (Class 1: 15-20 mmHg): แรงบีบรัดน้อย เหมาะสำหรับป้องกันในกลุ่มเสี่ยง, บรรเทาอาการขาเมื่อยล้า, หรือผู้ที่มีเส้นเลือดฝอยเล็กน้อย
     - ระดับที่ 2 (Class 2: 20-30 mmHg): แรงบีบรัดปานกลาง เหมาะสำหรับผู้ที่มีเส้นเลือดขอดที่เห็นชัดเจน, ขาบวมปานกลาง, หลังการรักษาเส้นเลือดขอด หรือตามคำแนะนำของแพทย์
     - ระดับที่ 3 (Class 3: 30-40 mmHg): แรงบีบรัดสูง เหมาะสำหรับผู้ที่มีเส้นเลือดขอดรุนแรง, ขาบวมมาก, มีการเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง หรือมีประวัติแผลหลอดเลือดดำ (ต้องใช้ตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น) (หมายเหตุ: ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกระดับแรงรัดที่เหมาะสมที่สุด)
  2. ลือกตามระดับความยาวให้ครอบคลุมบริเวณที่มีอาการ
     - แบบใต้เข่า (Knee-high) เหมาะกับเส้นเลือดขอดหรืออาการบวมที่จำกัดอยู่บริเวณน่องและข้อเท้า
     - แบบต้นขา (Thigh-high) เหมาะกับเส้นเลือดขอดที่ลามขึ้นมาถึงต้นขา
     - แบบเต็มตัวถึงเอว (Pantyhose/Waist-high) เหมาะกับเส้นเลือดขอดที่ขาทั้งหมด หรือตามความสะดวกของผู้ใช้ การเลือกความยาวขึ้นอยู่กับตำแหน่งและลักษณะของเส้นเลือดขอด รวมถึงคำแนะนำของแพทย์
  3. เลือกขนาดที่เหมาะสมตามสรีระร่างกาย การวัดขนาดขา (เช่น รอบข้อเท้า, รอบน่อง, รอบต้นขา, ความยาวขา) ตามตารางของผู้ผลิตแต่ละยี่ห้อเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้ได้ถุงน่องที่กระชับพอดี ไม่หลวมหรือแน่นจนเกินไป มีหลายขนาดตั้งแต่ S, M, L, XL ขึ้นไป และมักมีสีมาตรฐานคือ สีเนื้อ และ สีดำ

(ภาพ : ถุงน่องแฟชั่นทั่วไป)

ถุงน่องทั่วไป คืออะไร?

ถุงน่องทั่วไป หรือถุงน่องแฟชั่น เป็นเครื่องแต่งกายที่ผลิตจากผ้ายืด (เช่น ไนลอน, สแปนเด็กซ์) สวมใส่เพื่อคลุมเท้าและขา มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อความสวยงาม หรือให้ความอบอุ่น มีหลากหลายรูปแบบ ความหนา สีสัน ลวดลาย และระดับความยาว (ข้อเท้า, ครึ่งแข้ง, ใต้เข่า, ต้นขา, เต็มตัว) นิยมใช้เพื่อ

  • ปกปิดสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ รอยแผลเป็น หรือจุดด่างดำ
  • ช่วยให้เรียวขาดูสวย เรียบเนียนขึ้น
  • อาจช่วยกระชับต้นขาได้เล็กน้อย (ขึ้นอยู่กับความหนาและความยืดหยุ่น)
  • เพิ่มความมั่นใจในการแต่งกาย โดยเฉพาะเมื่อใส่กระโปรงหรือกางเกงขาสั้น
  • ให้ความอบอุ่นแก่ขาในสภาพอากาศเย็น
  • ป้องกันการเสียดสีระหว่างผิวหนังกับเสื้อผ้าหรือรองเท้า
  • ใช้ในการแสดงต่างๆ

ถุงน่องทั่วไปมีข้อดีอะไรบ้าง? (สรุป)

  • ช่วยปกปิดผิวให้ดูเรียบเนียน สวยงาม
  • อาจช่วยให้ขาดูเรียวและกระชับขึ้นเล็กน้อย
  • เพิ่มความมั่นใจในการแต่งกาย
  • มีสีสัน ลวดลายให้เลือกหลากหลาย เข้ากับแฟชั่นได้ง่าย
  • ให้ความอบอุ่น ป้องกันการเสียดสี

ข้อเสียของถุงน่องทั่วไป มีอะไรบ้าง?

  • อึดอัด ไม่สบายตัว โดยเฉพาะในอากาศร้อน หรือเมื่อใส่เป็นเวลานาน อาจระบายอากาศได้ไม่ดี
  • ระคายเคืองผิว ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายอาจเกิดผื่นคันจากเนื้อผ้าหรือสารเคมี
  • ฉีกขาดง่าย มักมีลักษณะบาง คุณภาพอาจไม่ทนทานเท่าถุงน่องทางการแพทย์
  • อาจรบกวนการไหลเวียนเลือด หากเลือกขนาดที่ไม่พอดี หรือขอบบนรัดแน่นเกินไป อาจทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก และเพิ่มความเสี่ยงเส้นเลือดขอดได้ (ไม่มีแรงบีบรัดแบบไล่ระดับ)
  • เสี่ยงต่อการติดเชื้อรา หากอับชื้น หรือทำจากวัสดุที่ไม่ระบายอากาศ

เทียบชัด ถุงน่องทางการแพทย์ VS ถุงน่องทั่วไป แตกต่างกันยังไง?

(ภาพกราฟิก: เทียบชัดข้อดี ถุงน่องธรรมดา vs ถุงน่องทางการแพทย์)

คุณสมบัติ
ถุงน่องทางการแพทย์ (เส้นเลือดขอด)
ถุงน่องทั่วไป (แฟชั่น)
วัตถุประสงค์หลัก
ดูแล/บรรเทาอาการเส้นเลือดขอด, ส่งเสริมการไหลเวียนเลือด, ป้องกัน DVT
ความสวยงาม, ปกปิดผิว, ให้ความอบอุ่น, แฟชั่น
แรงบีบรัด
มีแรงบีบรัดแบบไล่ระดับ (Graduated Compression) วัดเป็น mmHg
ไม่มีแรงบีบรัดแบบไล่ระดับ หรือมีน้อยมาก ไม่ได้มาตรฐาน
วัสดุ/ความหนา
หนา ทนทาน ถักทอพิเศษ
ส่วนใหญ่บาง ฉีกขาดง่ายกว่า
การเลือกขนาด
ต้องวัดขนาดขาตามจุดต่างๆ อย่างแม่นยำ
เลือกตามไซส์เสื้อผ้าทั่วไป (S, M, L) หรือส่วนสูง/น้ำหนัก
การรับรอง
เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ ควรมีมาตรฐานการผลิต
เป็นเครื่องแต่งกายทั่วไป
ราคา
สูงกว่า
ต่ำกว่า
ประโยชน์สุขภาพ
ช่วยดูแลเส้นเลือดขอด ลดบวม ลดปวด เมื่อยล้า ป้องกันลิ่มเลือด
ไม่มีโดยตรง อาจรบกวนการไหลเวียนเลือดหากรัดเกินไป

ถุงน่องทางการแพทย์ถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์โดยเฉพาะ ด้วยแรงบีบรัดแบบไล่ระดับที่ช่วยสนับสนุนการไหลเวียนเลือดและดูแลปัญหาเส้นเลือดขอด ส่วนถุงน่องแฟชั่นเน้นความสวยงามเป็นหลัก ไม่มีคุณสมบัติทางการแพทย์ และไม่สามารถใช้ทดแทนถุงน่องทางการแพทย์ในการดูแลเส้นเลือดขอดได้

เลือกซื้อถุงน่องทางการแพทย์ที่ไหนดี?

ถึงแม้จะหาซื้อได้ง่ายขึ้น แต่ถุงน่องทางการแพทย์เป็นอุปกรณ์ที่ส่งผลต่อสุขภาพ การเลือกซื้ออย่างถูกต้องจึงสำคัญมาก:

  • ปรึกษาแพทย์ สำคัญที่สุด ควรให้แพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ตรวจประเมินอาการเส้นเลือดขอด และวัดขนาดขา เพื่อแนะนำระดับแรงบีบรัด ความยาว และขนาดที่เหมาะสม
  • ตรวจหาข้อห้าม แพทย์จะตรวจชีพจรที่เท้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีภาวะหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบตัน (Peripheral Artery Disease - PAD) ซึ่งเป็นข้อห้ามสำคัญในการใส่ถุงน่องรัด เพราะอาจทำให้เนื้อเยื่อขาดเลือดได้
  • เลือกแหล่งที่น่าเชื่อถือ ซื้อจากร้านขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ โรงพยาบาล หรือคลินิกที่น่าเชื่อถือ ซึ่งมีผู้ให้คำแนะนำในการเลือกและสวมใส่ที่ถูกต้องได้

ที่เดอควีนส์ มีบริการถุงน่องทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ

ภาพถุงน่องเส้นเลือดขอด

เรามีถุงน่องทางการแพทย์คุณภาพสูงให้เลือกหลายระดับแรงบีบรัดและความยาว สามารถปรับให้เหมาะสมกับระยะและบริเวณที่เป็นเส้นเลือดขอดได้ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับทางการแพทย์ว่า สามารถช่วยลดความเสี่ยงการเกิดลิ่มเลือด และส่งเสริมการไหลเวียนเลือดกลับสู่หัวใจ โดยเฉพาะในขณะที่ร่างกายขาดการเคลื่อนไหว หรือต้องเดินทาง/ยืน/เดินนานๆ ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยขาได้

ถุงน่องของเราออกแบบโดยคำนึงถึงผู้สวมใส่ เหมาะกับสภาพผิวที่หลากหลาย เนื้อผ้าถักทอละเอียด กระชับ ระบายอากาศได้ดี ไม่อับชื้น ทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน ไม่ย้วยหรือฉีกขาดง่าย

ทีมงานของเราพร้อมให้คำแนะนำในการเลือก การสวมใส่ และการดูแลตนเอง ควบคู่ไปกับการประเมินและดูแลโดยแพทย์ เพื่อให้คุณได้รับการดูแลปัญหาเส้นเลือดขอดอย่างครบวงจรและมีประสิทธิภาพสูงสุด

รักษาเส้นเลือดขอดที่ เดอควีนส์ คลินิก

เดอควีนส์ คลินิก คลินิกความงามเพชรบุรี และ คลินิกความงามชลบุรี ให้บริการรักษาเส้นเลือดขอดด้วยวิธีที่ทันสมัย แบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น (เช่น การฉีดสลายเส้นเลือดขอด - Sclerotherapy) ดูแลโดยคุณหมอโบว์และทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ในการรักษาเส้นเลือดขอดมากว่า 10 ปี

แพทย์จะทำการประเมินอาการและระยะของเส้นเลือดขอดอย่างละเอียด เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมและให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา หากเป็นเส้นเลือดขอดระยะรุนแรงที่อาจต้องรักษาด้วยวิธีอื่น (เช่น การผ่าตัด) แพทย์จะให้คำแนะนำตามความเหมาะสม เพราะเรายึดถือประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในการรักษาของคนไข้เป็นหลัก

สนใจเข้ารับการรักษา ปรึกษาแพทย์ หรือส่งภาพเพื่อให้แพทย์ประเมินเบื้องต้นได้ที่ Line: @dequeensclinic หมอตอบเองค่ะ