ฉีดฟิลเลอร์แล้วมี 3 อาการนี้ ต้องรีบพบแพทย์ด่วน!

ฉีดฟิลเลอร์แล้วมี 3 อาการนี้ ต้องรีบพบแพทย์ด่วน!

ฉีดฟิลเลอร์แล้วมี 3 อาการนี้ ต้องรีบพบแพทย์ด่วน!

การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการเกี่ยวกับความงามที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ เลยค่ะ เพราะมีราคาที่เอื้อมถึง และมีคลินิกให้เลือกใช้บริการหลากหลายแห่ง แต่การฉีดฟิลเลอร์ก็มีข้อควรระวังที่เราจำเป็นต้องเฝ้าระวังหลังจากการฉีดค่ะ เพราะฉีดไปแล้ว อาจเกิดผลข้างเคียง หรือความผิดปกติ ที่อาจส่งผลให้เกิดอันตรายต่อร่างกายเราได้ค่ะ


ฉีดฟิลเลอร์แล้วมี 3 อาการนี้ ต้องรีบพบแพทย์ด่วน!

เมื่อฉีดฟิลเลอร์ไปแล้ว เราควรเฝ้าระวังอาการผิดปกติต่าง ๆ เพราะหากเกิดความผิดปกติใด ๆ เราจะได้รีบพบแพทย์และทำการรักษาได้ทันค่ะ การฉีดฟิลเลอร์นั้น อาจเกิดความผิดปกติได้ทันทีเลย หรืออาการอาจจะแสดงในระยะเวลา 2 – 3 วันหลังจากนั้น ซึ่งสาเหตุของความผิดปกติเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ แต่ก่อนอื่นเราไปดูกันก่อนว่า 3 อาการไหน ที่เราควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาค่ะ


1.การมองเห็นพร่ามัว ตามัว มองไม่ชัด ปวดตา

อาการตาพร่ามัวหลังจากฉีดฟิลเลอร์เป็นอาการที่อันตรายมาก ๆ และอาจเกิดขึ้นได้ทันที หรือหลังจากการฉีดไปสักระยะค่ะ ถ้าหลังจากการฉีดฟิลเลอร์และเกิดอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์ให้เร็วที่สุดค่ะ สาเหตุของอาการตาพร่ามัวหลังจากฉีดฟิลเลอร์คือ ฟิลเลอร์ไหลเข้าไปอุดตันในเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงลูกตานั่นเอง ทำให้ลูกตาของเราขาดเลือด และเมื่อปล่อยไว้นานเข้าอาจทำให้ตาบอดได้ค่ะ วิธีแก้คือแพทย์จะทำการฉีดสลายฟิลเลอร์ให้นั่นเองค่ะ


2.ผิวเปลี่ยนสี เป็นสีม่วง ผิวหนังซีด หรือมีตุ่มหนองขึ้น

ความผิดปกติข้อนี้ เป็นความผิดปกติที่เห็นได้ชัดค่ะ สาเหตุของอาการนี้คือ การแพ้ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์อุดตันในเส้นเลือด ทำให้ผิวหนังขาดเลือด และเนื้อตายนั่นเองค่ะ นอกจากนี้ อาจเกิดจากการติดเชื้อเนื่องจากใช้ฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐาน หรือขั้นตอนการทำหัตถการไม่ปลอดเชื้อ ทำให้อาจเกิดการปนเปื้อน และติดเชื้อได้ค่ะ โดยอาการที่ควรเฝ้าระวัง มีดังนี้ค่ะ

- ผิวหนังซีด เย็น

- ผิวหนังเป็นสีน้ำเงิน ม่วง เนื้อคล้ำ

- ผิวหนังเกิดสะเก็ด เป็นแผล

- มีตุ่มหนองขึ้น

- รู้สึกปวดบริเวณที่ฉีดผิดปกติ

เมื่อมีอาการเหล่านี้ จำเป็นต้องรีบพบแพทย์เพื่อฉีดสลายฟิลเลอร์ให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตรายขึ้นค่ะ


3.รู้สึกปวดหัว ชาตัว แขนขาอ่อนแรง

อาการนี้เกิดจากสาเหตุคือ ฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันในเส้นเลือดที่ต้องส่งเลือดไปเลี้ยงสมองนั่นเองค่ะ อาการที่จะตามมาคือ รู้สึกปวดศีรษะมากกว่าปกติ กล้ามเนื้ออ่อนแรง บ้านหมุน เดินเซ ซึ่งเป็นอาการที่อันตรายมากค่ะ แม้อาการนี้จะพบได้น้อยมาก แต่เป็นอาการที่อันตรายมากค่ะ เมื่อเกิดขึ้นแล้วจึงควรรีบพบแพทย์เพื่อหาทางรักษาให้เร็วที่สุดค่ะ


ฉีดฟิลเลอร์อย่างไรให้ปลอดภัย?

การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยค่ะ แต่ความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นหลังจากการฉีดนั้น เกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการที่ผู้ฉีดไม่มีประสบการณ์ ไม่เชี่ยวชาญ เป็นหมอกระเป๋า อุปกรณ์หรือเครื่องมือที่ใช้ไม่สะอาด ทำให้เกิดการติดเชื้อ รวมถึงการใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน เป็นฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้วที่ไม่ผ่านการรับรองจากอย.


การฉีดฟิลเลอร์ให้ปลอดภัย ผู้รับบริการต้องเลือกสถานที่ในการฉีดอย่างพิถีพิถัน ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน สะอาด ปลอดเชื้อ มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการทำหัตถการ และที่สำคัญคือ ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ ผ่านการรับรองจากอย.ค่ะ วิธีการตรวจสอบฟิลเลอร์แท้ สามารถสังเกตได้ดังนี้ค่ะ

-กล่องฟิลเลอร์ต้องปิดผนึกไว้อยู่เสมอ

-เลข Lot. ที่หลอด, สติกเกอร์ และที่ซองต้องตรงกัน

-ฟิลเลอร์บางยี่ห้อ มี QR Code ให้ตรวจสอบ เช่น Restylane, Neuramis

-สามารถโทรเช็คเลข Lot. กับบริษัทผู้จำหน่ายได้


เมื่อปัจจัยเหล่านี้ได้รับการตรวจสอบอย่างดีแล้วก็จะช่วยให้เรามั่นใจได้มากขึ้นค่ะว่าการฉีดฟิลเลอร์จะปลอดภัย และไม่เสี่ยงเกิดผลข้างเคียงตามมา แต่ถึงอย่างไร ต้องไม่ลืมเช็คความผิดปกติของเราเสมอ ๆ กันไว้ดีที่สุดค่ะ


ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ ควรเตรียมตัวก่อนทำอย่างไร?

- งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ 24 ชั่วโมง ก่อนการฉีดฟิลเลอร์

- งดทานยา หรืออาหารเสริมบางชนิด ที่จะทำให้เกิดภาวะเลือดหยุดยาก เช่น แอสไพริน วิตามินอี พอนสแตน หรือปรึกษาแพทย์ก่อนการฉีด

- ศึกษาและเลือกทำหัตถการกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และดูแลโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์

- หลังการฉีดฟิลเลอร์ ควรปฏิบัติตัวอย่างไร?

- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ใบหน้าสัมผัสกับความร้อน

- งดการนวด คลึง บีบ กด บริเวณที่ฉีดอย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังการฉีด

- งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ หลังการฉีด 24 ชั่วโมง

- ไม่ควรออกกำลังกายอย่างหนักในช่วง 24 ชั่วโมง หลังการฉีด

- งดการนวดหน้า ทำเลเซอร์ กดสิว ในช่วง 1 สัปดาห์ หลังการฉีด

- งดนวดหน้า ขัดหน้า ทำเลเซอร์ ในช่วง 2 สัปดาห์ หลังการฉีด

- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เพราะเป็นตัวการทำให้คอลลาเจนลดลง


ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์

แม้การฉีดฟิลเลอร์ จะเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง ไม่เสี่ยงต่อการแพ้ แต่ก็ไม่เหมาะสำหรับทุกคนค่ะ เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ หรืออาการเจ็บป่วยที่เป็นอยู่อาจจะทรุดหนักลง ดังนั้น ผู้ที่มีคุณสมบัติเหล่านี้ ไม่ควรฉีด หรือห้ามฉีดฟิลเลอร์ค่ะ

- ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็ง โรคติดเชื้อ หรือโรคผิวหนังบางประเภท

- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์

- ผู้ที่เป็นโรคโลหิตจาง

- ผู้ที่ได้รับยาต้านการแข็งตัวของเลือด แอสไพริน หรือได้รับยาต้านเกล็ดเลือดอื่น ๆ

- ผู้ที่เป็นโรคการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ

- ผู้ที่รับประทานวิตามินอี หรือสารที่ทำให้เลือดไม่แข็งตัว

- ผู้ที่เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง


ฉีดฟิลเลอร์ ที่ De Queens Clinic

ที่ De Queens Clinic คลินิกเสริมความงามชลบุรี คลินิกเสริมความงามเพชรบุรี เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ และกำกับดูแลการฉีดฟิลเลอร์ด้วยตนเอง และคลินิกของเรานั้นได้มาตรฐาน สะอาด ปลอดเชื้อ ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ผ่านการรับรองจากอย. สามารถตรวจสอบได้ค่ะ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม หรืออยากปรึกษาคุณหมอเรื่องการฉีดฟิลเลอร์ สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ De Queens Clinic ทั้งสองสาขา เรายินดีให้บริการค่ะ

Line: @dequeensclinic