จริงหรือไม่ หลังฉีดโบท็อกซ์ ห้ามกินปลาร้า?

การฉีดหน้าเป็นหัตถการที่มีคำถามเกิดขึ้นบ่อย ๆ ว่าฉีดแล้วทำอย่างนั้นได้ไหม ทำอย่างนี้ได้ไหม เนื่องจากกลัวผลข้างเคียงที่ตามมา การฉีดโบท็อกซ์ ก็เป็นหัตถการหนึ่งที่คนไข้หลาย ๆ คน สอบถามคุณหมอเข้ามาว่า ฉีดโบท็อกซ์แล้ว กินปลาร้าหรือของหมักดองได้ไหม วันนี้คุณหมอจะมาตอบข้อสงสัยในบทความนี้ค่ะ

หลังฉีดโบท็อกซ์ กินปลาร้าได้เลยไหม?

อาหารยอดนิยมของคนไทยอย่างหนึ่งเลยก็คือ ส้มตำปูปลาร้า ใช่ไหมล่ะคะ หลาย ๆ ท่านที่ฉีดโบท็อกซ์ อาจเคยได้ยินว่าฉีดโบท็อกซ์ไม่ควรกินปลาร้า จึงจำใจต้องงดทานของโปรดไปเลย จริง ๆ การทานปลาร้า ยังสามารถทานได้อยู่ค่ะ แต่ไม่ใช่หลังจากเพิ่งฉีดโบท็อกซ์ไปหมาด ๆ แต่ควรเว้นระยะ งดการทานปลาร้าสักประมาณ 2 สัปดาห์ค่ะ

เนื่องจากปลาร้าเป็นอาหารที่ไม่ได้ปรุงสุก อาจมีกรรมวิธีที่ไม่สะอาด และเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของแบคทีเรียต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก หากทานเข้าไปหลังจากการฉีดโบท็อกซ์ในช่วงแรก ที่แผลจากเข็มฉีดยายังไม่หาย อาจเสี่ยงทำให้เกิดอาการบวม อาการอักเสบตามมา คุณหมอจึงแนะนำให้งดการทานปลาร้าสัก 2 สัปดาห์หลังฉีดค่ะ หากผ่านช่วงนี้ไปแล้วก็สามารถกลับมาทานได้ค่ะ

นอกจากปลาร้า ควรงดทานอะไรอีกบ้าง?

อาหารที่ไม่แนะนำให้รับประทาน หลังจากการฉีดโบท็อกซ์ นอกจากปลาร้าแล้ว มีอาหารดังต่อไปนี้ค่ะ

1. อาหารที่มีรสจัด เช่น เค็มจัด เผ็ดจัด

เนื่องจากอาหารประเภทนี้อาจทำให้เกิดการบวมน้ำได้ค่ะ เพราะหลังจากรับประทานอาหารที่มีรสจัดไปแล้ว จะดูดน้ำกลับเข้าสู่ร่างกายค่อนข้างมากจนใบหน้าและลำตัวบวมได้ นอกจากนี้เมื่อรับประทานอาหารรสจัดเข้าไปแล้ว อาจทำให้เกิดอาการน้ำมูก น้ำตาไหล ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย ในขณะที่เช็ดน้ำมูก น้ำตา เพราะหลังฉีดโบท็อกซ์แล้วบนใบหน้าเราจะยังมีรอยเข็มอยู่บ้างเล็กน้อยค่ะ จึงควรงดอาหารประเภทนี้หลังจากการฉีดโบท็อกซ์ประมาณ 3-7 วันค่ะ

2. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

แอลกอฮอล์จะไปรบกวนการทำงานของยาแก้อักเสบหรือยาลดบวมที่คุณหมอจ่ายยาให้กลับไปทานที่บ้านหลังฉีดโบท็อกซ์ ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะไปขัดขวางกระบวนการสมานแผล ทำให้แผลที่เกิดจากรอยเข็มหายช้ากว่าปกติ จึงควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด หลังการฉีด 3-5 วันค่ะ

3. อาหารที่มีรสหวานจัด

อาหารที่มีรสหวานมาก ๆ อาจไปกระตุ้นทำให้ผิวหน้าเกิดการอักเสบได้ง่ายกว่าปกติ รวมทั้งอาจส่งผลให้แผลบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์หายช้าอีกด้วยค่ะ

4. อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ

อาหารที่ไม่สด รวมทั้งอาหารที่ไม่ได้ผ่านการปรุงสุก อาจมีพยาธิบางชนิดที่อาจทำให้การอักเสบจากการฉีดโบท็อกซ์เพิ่มมากขึ้นค่ะ

การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์

• ศึกษาและเลือกทำหัตถการกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และดูแลโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์

• งดทานยา หรืออาหารเสริมบางชนิด ที่จะทำให้เกิดภาวะเลือดหยุดยาก เช่น แอสไพริน วิตามินอี พอนสแตน หรือปรึกษาแพทย์ก่อนการฉีด

• งดดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด

• แจ้งโรคประจำตัวและประวัติการแพ้ยา

• พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกาย

การดูแลหลังฉีดโบท็อกซ์

• ห้ามนอนราบ 3-4 ชั่วโมง หลังการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย

• หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ใบหน้าสัมผัสกับความร้อน เช่น สัมผัสกับแดดแรง ๆ สัมผัสความร้อนจากไฟ อาบน้ำอุ่น

• ไม่ควรนวด คลึง บีบ หรือสัมผัสกับใบหน้า 6-9 ชั่วโมงหลังการฉีด

• ไม่ควรออกกำลังกายอย่างหนักในช่วง 1 สัปดาห์ หลังการฉีด

• งดทานอาหารดิบ อาหารหมักดอง

• งดการนวดหน้า ทำเลเซอร์ กดสิว ในช่วง 1 สัปดาห์ หลังการฉีด

• งดดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ ในช่วง 1 สัปดาห์ หลังการฉีด

ฉีดโบท็อกซ์ ที่ De Queens Clinic ดีอย่างไร?

การฉีดโบท็อกซ แม้จะเป็นหัตถการที่ปลอดภัย และเป็นที่นิยมทำกันอย่างแพร่หลาย แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะทำที่ไหนก็ได้ แต่ควรทำที่คลินิกที่ได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์ได้ว่าใช้ของแท้แน่นอน และฉีดโดยแพทย์ที่ชำนาญการ มีประสบการณ์ในการฉีด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงความต้องการ และมีความปลอดภัย ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่เห็นผล หรือเกิดอันตราย

ที่ De Queens Clinic คลินิกเสริมความงามชลบุรี คลินิกเสริมความงามเพชรบุรี เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการ ฉีด Botox และดูแลกำกับทุกขั้นตอนของการฉีด จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยและเห็นผลแน่นอนค่ะ หากคุณกำลังมองหาคลินิกที่ได้มาตรฐานในการฉีด Botox หรืออยากปรึกษาแพทย์ก่อนการฉีด สามารถติดต่อเข้ามาที่ De Queens Clinic ทั้ง 2 สาขา เรายินดีให้บริการค่ะ

Line: @dequeensclinic